top of page

บ้านไร่สายลม บ้านสำหรับทุกครอบครัว

Story ของร้าน

ร้านอาหารบ้านไร่สายลม คือ ผลงานแห่งความทุ่มเทและตั้งใจของเราสองคน พี่หรั่ง (คุณอรุณ) และ ทราย ค่ะ โดยมีผู้สนับสนุนหลัก คือ ยาย, ป้า และแม่ ของทรายค่ะ

1 ///
กว่าจะมาเป็น ร้านอาหารบ้านไร่สายลม

สมัยเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ ทรายเองไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้เลยค่ะ ทรายรู้ตัวว่าชอบงานบริการ งานค้าขาย และอยากมีร้านอาหารเล็กๆ ทั้งๆ ที่ทรายเองทำอาหารไม่เป็น แต่ชอบเวลาที่ ครอบครัวได้นั่งทานข้าวพร้อมหน้า เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะได้แชร์เรื่องราวต่างๆ ระหว่างกัน

ซึ่งตอนเด็ก ครอบครัวทราย เราแทบไม่มีโอกาสนี้เลย เนื่องจาก แม่เจี๊ยบ เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ขยันทำงานมาก แทบไม่มีเวลาพัก บ้านเราค้าขายผัก แม่ตื่นแต่เช้ามืดและเข้านอนไปก่อนที่ทรายกับน้องจะทำการบ้านเสร็จซะอีก

ป้าที่ครองโสด (เราเรียกว่า แม่อึ่ง) ดูแลทรายและน้องเป็นหลัก ท่านรับราชการครูที่ทุ่มเทตั้งใจสอนลูกศิษย์ เรียกว่าจ้างสิบทำแสน ส่วนยายก็จะรับหน้าที่เป็นแม่บ้านที่ขยันสุดๆ ดังนั้นที่บ้านต่างรู้หน้าที่ของตน ใครสะดวกทานข้าวก็ทานเลย ไม่รอกัน โดยยายมีหน้าที่แบ่งกับข้าวเพื่อให้ทุกคนได้มีกินกันอย่างทั่วถึง บ้านเรามีฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวย แต่ยายกับแม่ขยันทำและขยันเก็บ

อาจจะเพราะเติบโตมาแบบนี้ เลยเหมือนเป็นปมในใจ ทรายเลยชอบที่สนับสนุนให้คนในทุกครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันมากๆ กับกิจกรรมที่ทุกคนต้องทำทุกวัน คือ การทานข้าวร่วมกัน นั่นเอง

ร้านอาหาร ที่เปรียบเหมือนครู ฝึกให้ทรายบริหารคนและธุรกิจ ร้านแรก ในวัย 23 ปี ไม่ใช่ บ้านไร่สายลม นะคะ แต่เป็นร้านที่คนรู้จักยกให้แม่เจี๊ยบ แทนเงินที่ยืมไปลงทุนแต่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ เป็นร้านอาหารไทย จีน ที่สภาพทรุดโทรมหน่อย มุงด้วยจาก สร้างด้วยไม้ยูคา อยู่กลางบ่อเลี้ยงกุ้ง กับสัญญาเช่าที่ 2 ปี พร้อมกับลูกน้องกลุ่มแรก ที่ติดค้างค่าจ้างกันมามากกว่า 1 เดือน แม้ว่าการเปิดร้านอาหารจะเป็นอาชีพในฝัน แต่ร้านได้ที่ร้านแรกนี่ ก็ถือว่าต่างจากที่ฝันมากเหมือนกันค่ะ

และตามแนวทางการทำงานของแม่เจี๊ยบ คือการลงมือทำทันที ไม่มีรีรอตั้งหลักให้เสียเวลา ดังนั้นทรายจึงกลายเป็นเจ้าของร้านอาหารแบบข้ามคืน จากเด็กจบใหม่ ไร้ประสบการณ์ สู่การเป็นเจ้านายคน กับร้านอาหารที่ยกมาให้แบบกึ่งสำเร็จรูป ไม่ต้องรอก่อสร้าง มีเมนูอาหารสูตรตามฝีมือกุ๊ก มีพนักงานบางส่วน แต่ไม่มีระบบ กับปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายค้างชำระที่ตามมาเป็นขบวน

และค่ะ ทรายก็แค่เรียนรู้ไปพร้อมกับการลงมือทำ!! แบบของจริง ไม่มีเวลามาคิดว่าเราจะทำได้หรือไม่
แค่ศึกษา เก็บประสบการณ์ พัฒนา ปรับ เปลี่ยน มาเรื่อยๆ แหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด คือ คำแนะนำ ติชม จากกลุ่มลูกค้าของเรา การตัดสินใจเลือกแนวทางของร้าน และได้เริ่มบริหารร้านอาหารอย่างเป็นระบบ ในขณะที่สัญญาเช่าที่ใกล้สิ้นสุดลง

ทรายได้บริหาร ร้านอาหารแห่งแรกนี้ ตั้งแต่ปลายปี 2549 ถึง ช่วงต้นปี 2555 โดยมีสัญญาเช่าแบบ 2 ปีต่อ 2 ปี และภายหลังเปลี่ยนมาเป็นแบบ ปีต่อปี เริ่มมีความไม่แน่นอน จึงคิดหาทำเลที่ตั้งใหม่ ซึ่งการก่อสร้างต้องลงทุนมาก และไม่ต้องการมีปัญหาเรื่องสัญญาเช่าแบบเดิมๆ อีก จึงตัดสินใจ เลือก สวนมะม่วงของยาย ซึ่งเป็นที่ดินของแม่อึ่ง (มรดกจากยายยกให้ป้า) ขนาดประมาณ 2 ไร่เศษ ในการก่อสร้างร้านอาหาร ด้วยบุญพาวาสนาส่งทรายสามารถรวบรวมที่ดินโดยรอบ ทำให้ขนาดพื้นที่ทั้งหมดเป็น 7 ไร่ ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งของทำเลปัจจุบันในช่วงนั้น แตกต่างจากร้านแรกมาก เพราะไม่ได้อยู่ในโซนร้านอาหารในเมือง หากจะมาใช้บริการที่ร้าน ต้องตั้งใจมาจริงๆ ไม่ใช่แค่ขับผ่าน

2 ///
เริ่มต้นใหม่ กับ ร้านอาหารบ้านไร่สายลม

การหาเงินลงทุนสำหรับการทำร้านอาหารเป็นด่านต่อไปที่ต้องฟันฝ่าให้สำเร็จ ทรายทำแผนธุรกิจและยื่นขอเงินทุนจากหลายธนาคารตลอดปี 2554 จนได้เงินทุนเงื่อนไขดีจาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กว่าจะแล้วเสร็จเพื่อที่จะเปิดร้านอาหารบ้านไร่สายลมได้ช่างยากลำบากน่าดู ปี 2554-2556 นี่ ทรายยกให้เป็นปีแห่งการเรียนรู้และประสบการณ์เลย

ภายใต้ความกล้าตัดสินใจที่จะเทหมดหน้าตัก และเป็นหนี้หลักสิบล้าน ต้องขอบคุณแม่และคู่ชีวิต ที่ให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเสมอ โดยเฉพาะพี่หรั่ง ด้วยความไร้ประสบการณ์ของเด็ก 2 คนอย่างเรา ทำให้การก่อสร้างไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ มีบทเรียนราคาแพงมากมาย ที่ทำให้เราจดจำไปไม่รู้ลืม พี่หรั่งต้องตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อมาลงมือลงแรงก่อสร้างร้านที่ยังไม่เสร็จด้วยตนเอง เพื่อให้สามารถเปิดร้านใหม่ แทนที่ร้านเก่าที่ได้ปิดตัวลงเพราะหมดสัญญาเช่า พนักงานร้านอาหารทุกคนต่างต้องมาช่วยกัน ก่อสร้างบ้าง ทำสวนบ้าง จับหินเพื่อสร้างสระน้ำบ้าง เราทุกคนกลายเป็นช่างก่อสร้างจำเป็นกันหมด

3 ///
ปี 2556 - 2557 เป็นปีที่ยากลำบากที่สุด และ โชคดีที่สุด

บ้านไร่สายลม เปิดให้บริการวันแรก ด้วยความไม่พร้อม ในเดือนมกราคม 2556 พร้อมกับข่าวดีในชีวิตอีก 1 สัปดาห์ถัดมา คือ ทรายตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์ ปีแรกของการประคับประคองร้านอาหาร แบบไร้สภาพคล่อง กับอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงช่างเป็นปีที่ทรหดมาก ด้วยทำเลที่ห่างไกลจากโซนร้านอาหาร ลูกค้าต้องเดินทางไกลขึ้น ไม่มีเมนูชูโรง หรือจุดเด่นใดๆ จูงใจให้ต้องมา ทำให้ทรายรู้สึกท้อใจในบางครั้ง แต่คนที่เคยคิดจะยอมแพ้และเชื่อในตัวทรายอย่างพี่หรั่ง กลับคอยให้กำลังใจและหาทุกวิถีทางเพื่อให้เราทุกคนรอด

ต้นปี 2557 สถานการณ์ทางการเงินของร้านอยู่ในภาวะวิกฤต
พี่หรั่งกับทรายคิดว่าต้องหาเมนูชูโรง ที่แตกต่างจากที่อื่น หาทานได้ยากในพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้ามาใช้บริการที่ร้าน
พี่หรั่งทดลองทำขาหมูเยอรมัน ซึ่งช่วงนั้นหาทานได้แค่บางร้านในระยอง การทดลองทำสำเร็จด้วยดี เพียงแต่กระบวนการทำนั้นขาดความน่าสนใจ พี่หรั่งจึงคิดสร้างเตาดิน จากประสบการณ์สมัยเด็กที่เคยทำเตาเผาถ่านและเตาต้มเหล้า โดยศึกษาด้วยตนเอง จากคลิปต่างประเทศใน Youtube ในตอนนั้นคนรอบตัวเราสองคนต่างเป็นห่วงเรามาก แต่ทรายเองก็เชื่อมั่นในความตั้งใจของพี่หรั่งเช่นกัน แม้จะมองไม่เห็นภาพในอนาคต แต่ก็สนับสนุนให้พี่หรั่งได้ทดลองทำในสิ่งที่ต้องการ ขณะที่พี่หรั่งสร้างเตาดินแรกขึ้น ทรายเหลือเงินทุนอีกเพียง 6,000 บาท จึงตัดสินใจไปเรียนคอร์สการทำตลาดบน Facebook กับอาจารย์อลงกรณ์ ดอกดวง

จากภาวะเครียด สู่ภาวะที่ไม่รู้จะเครียดไปทำไม หลังเราชนฝาและไม่เหลือเงินหมุนเวียน มีแต่ความเชื่อในกันและกัน พี่หรั่งสร้างเตาดินเสร็จ และทดลองใช้เตา โดยใช้วัตถุดิบง่ายๆ ที่มี ลองอบพิซซ่า และสำเร็จ ปีนั้นร้านอาหารทั่วไปในระยองยังไม่มีร้านไหนมีเมนูนี้จำหน่าย พี่หรั่งจึงตัดสินใจจะทำให้เมนูเด่นของร้านเรา เป็น พิซซ่าโฮมเมดอบเตาดิน ขึ้นมาแทนที่จะเป็นขาหมูเยอรมันที่พอหาทานได้บ้างในบางร้าน โดยมีทรายเป็นคนทำการตลาดผ่านทาง Facebook

4 ///
ปี 2558-2559 ที่เรากลับมายืนอยู่ได้

จากการสู้ยิบตาของพี่หรั่งในช่วงปี 2557 ความใส่ใจในการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีในการทำอาหารให้กับลูกค้า ความมาตรฐานสูงในการทำอาหาร และการเป็นตัวของตัวเอง รวมถึงการตลาดที่เหมาะสม พลิกสถานการณ์ร้านอาหารบ้านไร่สายลมได้สำเร็จ จากร้านที่อาจจะต้องปิดกิจการในอีกไม่กี่เดือน กลับเป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับเกินคาด กับเมนูพิซซ่าโฮมเมดอบเตาดิน มีลูกค้ามาใช้บริการและบอกต่อ ปี 2558 - 2559 ถือว่าเป็นปีที่ พิซซ่าโฮมเมด สร้างชื่อเสียงให้กับร้านอาหารบ้านไร่สายลม และเป็นเมนูห้ามพลาดของร้านไปเลย

การรักษามาตรฐาน ความจริงใจในการให้บริการ การพัฒนาอยู่เสมอ ทำให้ร้านอาหารบ้านไร่สายลม มีลูกค้าประจำหลายครอบครัว และอยู่เป็นหนึ่งในร้านอาหารของจังหวัดระยองถึงทุกวันนี้

เราสองคนต้องการให้ บ้านไร่สายลม เป็นมากกว่าสถานที่รับประทานอาหาร
แต่ให้เป็น “บ้านสำหรับทุกคน” สถานที่ที่ ครอบครัวจะมาใช้เวลาคุณภาพบนโต๊ะอาหารด้วยกัน อย่างพร้อมหน้า
แลกเปลี่ยนความคิด พูดคุย และมีช่วงเวลาดีๆ ที่น่าจดจำร่วมกัน
เพราะเหตุนี้ ร้านอาหารบ้านไร่สายลม จึงถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับคนทุกวัยในครอบครัว

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญต่อการมีอยู่ของร้านอาหารบ้านไร่สายลม ก็คือ พนักงานที่นี่ทุกคน
เราผ่านทั้งเรื่องดีและเรื่องยากมาด้วยกัน ผ่านแต่ละช่วงวัยมาด้วยกัน
ตั้งแต่เป็นคนโสด มีครอบครัว มีสถานะเป็นพ่อแม่
พวกเราล้วนมีเป้าหมายและทัศนคติที่ดี สอดคล้องกัน
ให้ความสำคัญกับความเป็นครอบครัว เพราะเป็นความสุขที่แท้จริง

เรารักที่นี่ รักในงานนี้ รักที่จะเสิร์ฟอาหารคุณภาพดีให้กับลูกค้า
รักที่เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดีๆ ของทุกคน
และที่สำคัญ ทราย รัก ในการเห็นรอยยิ้มของทุกครอบครัวเมื่อมาที่นี่ค่ะ

รอยยิ้มและความพึงพอใจของทุกท่านที่มาเยือน บ้านไร่สายลม คือรางวัลของเรา
ขอบคุณทุกการสนับสนุนร้านอาหารบ้านไร่สายลมในทุกช่องทาง

ทราย (ธัญณิชา ปิดกันภัยธำรง)

bottom of page